ติ๊ด
ติ๊ด ติ๊ด
เสียงนาฬิกาปลุกที่หัวเตียงดังขึ้น คนหลับอยู่เอื้อมมือไปปิดมัน
หยัดตนขึ้นจากเตียงกว้าง บิดขี้เกียจเล็กน้อยไล่อาการง่วงและมึนงงระหว่างตื่นนอนเล็กน้อย
คิมจีวอน ยกยิ้มเมื่อเห็นก้อนขนที่ขดอยู่ข้างหมอนขนเป็นของเขายังไม่ตื่น
มือใหญ่กว่าตัวลูกแมวน้อยลูบลงที่ขนนิ่มยาวอย่างรักใคร่
กายสูงยืนขึ้นเดินออกจากห้องนอนไปหยุดที่หน้าตู้เย็น
หยิบของออกมาทำสองสามอย่างเริ่มมื้อเช้าง่ายๆด้วยข้าวผัด ไข่ดาวยางมะตูมสองฟองและนมจืด
กลิ่นหอมของข้าวผัดหน้าตาน่ากินลอยอบอวนไปทั่วห้อง จีวอนวางอาหารเช้าของตัวเองลงที่โต๊ะกินข้าวในส่วนครัว
แล้วเดินกลับไปหยิบนมแพะไม่เย็นข้างตู้มาเทใส่ถ้วนเล็กๆ
มิ้ว..มิ้ว..
เสียงแมวน้อยดังออกมาจากส่วนหน้าห้อง
ขาเล็กเดินเตาะแตะมาหาเจ้าของร่างใหญ่ จีวอนยกยิ้มอย่างนึกเอ็นดู
“ยอโบตื่นแล้วหรอ”
เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยกับแมวน้อย มือก็ยกถ้วยนมแพะมาวางที่ประจำที่เจ้าก้อนขนตัวน้อยมักจะมากินนมตรงนี้เสมอ
เขาจัดการกินมื้อเช้าให้หมดภายในไม่กี่นาที พร้อมยกไปล้าง คว่ำถ้วยจานที่ล้างแล้วอย่างเป็นระเบียบ
คนตัวสูงเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำแล้วเปลี่ยนชุดเป็นชุดสำหรับออกกำลังกาย เดินออกมาแมวน้อยก็กินหมดแล้ว
จีวอนนั่งลงข้างๆยอโบ เท้าเล็กนุ่มนิ่มก้าวขึ้นมาบนตักเจ้าของห้องอย่างสั่นๆ ยอโบนั่งลงบนตักจีวอนแล้วส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ
มิ้ว..
“ไหน จะเอาอะไรล่ะเรา หืม”
จีวอนเกลี่ยนิ้วไปบนหัวกลมของแมวน้อย เจ้าแมวเงยหน้ารับสัมผัสที่เจ้าของมอบให้อย่างเต็มใจด้วยการยกหัวไปถูกับนิ้วเมื่อเขาลูบวนไปมา
ก้อนขนตัวน้อยครางพรือๆในลำคออย่างพอใจ
พอเล่นกับแมวจนรู้สึกว่าอาหารเริ่มย่อยจีวอนจึงยกแมวน้อยออกจากตักแล้วไปสวมรองเท้าที่ประตู
เปิดตู้เก็บรองเท้าออก หยิบรองเท้าวิ่งออกมาคู่หนึ่ง สวมพร้อมผูกเชือกให้แน่น ขายาวก้าวออกไปจากตัวคอนโด
.
.
.
.
จีวอนวิ่งเหยาะๆอยู่ในสวนสาธารณะ
มองคนโน้นคนนี้ผ่านไปมา เขามาวิ่งที่นี่ทุกเช้าถ้าฝนไม่ตก จำทุกคนที่มาเป็นประจำได้
“โอบัง ๆ ๆ ๆ ๆ!!! ช้าหน่อย ๆ!!!”
จีวอนหันไปตามเสียงที่ดังมาจากข้างหลังตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่วิ่งมาใกล้อย่างไม่ทันตั้งตัวหรือหลบเลี่ยงคนตัวเล็กที่กำลังพุ่งเข้ามาได้
พร้อมกับความรู้สึกเหมือนโดนมัดไปทั้งขา
โครม!
จีวอนรู้สึกโครตหนัก
แถมมึนหัวจากแรงกระแทกเมื่อครู่อีก จีวอนใช้เวลาตั้งสติไม่นานแล้วเอ่ยเสียงแหบพร่าออกไป
“คุณ...เป็นอะไรไหม...ลุกจากตัวผมได้รึยัง…”
เหตุการณ์เมื่อครู่มันไม่ได้จบแค่เขาล้มไปกองกับพื้น
แต่กลายเป็นว่า เจ้าของสุนัขตัวนั้นล้มทับเขา แถมมือเล็กๆนั่รก็กำลังหาที่ยันตัวเองขึ้นกับพื้นเมื่อเขาเอ่ยเรียกให้ลุกขึ้น
แต่กลายเป็นว่าหาพื้นไม่เจอ..
มือป้อมนั่นปัดป่ายไปทั่วหน้าท้องเขาผ่านเสื้อกีฬา
ผิวสัมผัสจากมือสู่ผืนผ้าทำให้รู้สึกแปลกๆ เมื่อมือนั้นลูบไปทั่ว อ่า ให้ตายสิ
ใครสั่งใครสอนไหมว่าอย่าลูบแบบนี้!
ตากลมช้อนมองเขาขึ้นมา สิ่งแรกที่เตะตาเลยนอกจากตาโตกับสันจมูกเด่นนั่นคงเป็นปากอิ่มรูปหัวใจที่เหมือนจะขยับพูดอะไรไม่ถูกสักเท่าไหร่
คนตรงหน้ารีบยันตัวเองขึ้นเมื่อได้สติ ลนลานเสียจนนึกหัวเราะให้กับความน่าเอ็นดู
จีวอนเพิ่งเห็นว่าขาของเรามันพันกันไปด้วยสายจูงของเจ้าของสุนัข
ตาคมเหลือมองหมาปั๊กตัวกลมที่ยืนแลบลิ้นแฮ่กๆอยู่ใกล้ๆ มือยาวแกะสายจูงออกจากขาของเราทั้งคู่
จีวอนมองข้อเท้าเล็กที่โผล่พ้นกางเกงวอร์มเนื้อหนา
กระดูกเล็กจนนึกว่าเป็นผู้หญิงเลย
คนถูกกระทำส่งสายจูงคืนให้เจ้าของสุนัข
เด็กตรงหน้าดูมีท่าทีทำอะไรไม่ถูกเมื่อปลายนิ้วเราสัมผัสกันราวกับมันมีกระแสไฟแล่นจากปลายนิ้วเขาไปสู่อีกฝ่าย
“เอ่อ...ขอบคุณครับ”
มองไปที่หน้าตาน่ารักของอีกคนก็ได้แต่ระบายยิ้มออกมาบางๆ
หมั่นเขี้ยวจนอดยกมือไปลูบผมนั่นแม้จะไม่รู้จักกัน เอ่ยบอกให้ระวังตัวอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกเลยนะ
มันทำให้ใจไม่ดีนะรู้ไหม ได้แค่เพียงคิดในหัว แต่สิ่งที่พูดออกไปมันต่างจากในความคิดเหลือเกิน
“วันหลังดูแลหมาดีๆนะ”
“คะ...ครับ”
จีวอนวิ่งออกมาจากจุดนั้นเหยาะ ใจเต้นถี่ยามนึกถึงใบหน้าน่ารักพร้อมตากลมที่ช้อนมอง
มันเหมือนแมวน้อยยอโบของเขา ก็เรียกได้เลยว่าไม่ต่างกันนัก สัมผัสจากปลายนิ้วสู่หน้าท้องผ่านเนื้อผ้านั้นยังทำให้รู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องเสมอ
ในชีวิตนอกจากวันไนท์สแตนที่เป็นคนแปลกหน้าแล้ว ก็ไม่เคยโดนคนแปลกหน้าคนในแตะต้องขนาดนี้เลยให้ตายสิ
.
.
.
.
ร่างสูงกลับมาถึงห้อง ถอดเสื้อผ้าและอาบน้ำทำความสะอาดคราบเหงื่อที่ไปวิ่งมาให้หมดจดก่อนจะยกโน้ตบุ๊คสีดำขลับของตนมาวางบนโต๊ะกินข้าว
เปิดคอมและเดินเข้าห้องนอนไปหยิบแว่นกรอบเหลี่ยมของตนออกมาสวม จีวอนไม่ใช่คนสายตาสั้น
แต่แสงจากคอมพิวเตอร์ที่ต้องทำงานทุกวันทำให้ต้องใส่แว่นกรองแสงไว้ในเกือบทุกครั้งที่ทำงาน
มือข้างหนึ่งกดแป้นพิม เขียนแผนการสอนของตัวเองในสัปดาห์ถัดไป
อีกมือก็ลูบยอโบตัวน้อยที่ปีนตัวเองขึ้นมานั่งบนโต๊ะ ก้อนขนฟูหลับพริ้มและหายใจเข้าออกสม่ำเสมออย่างสบายใจ
ท่าทีน่ารักของแมวทำให้อดนึกถึงใครบางคนที่เจอที่สวนในตอนเช้าไม่ได้ ยามที่ได้สัมผัสกับกลุ่มผมนุ่มนิ่มนั่น
ให้ความรู้สึกราวกับกำลังลูบขนยอโบอยู่ก็ไม่ต่าง
จีวอนเป็นบัณฑิตจบใหม่ได้เกือบปีจากมหาลัยใกล้ๆหอพักที่อาศัยอยู่จากคณะวิศวะคอมพิวเจอร์ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
ทำให้เขาได้งานทันทีก่อนจะจบด้วยซ้ำจากอาจารย์ในคลาส โดยให้เข้าสมัครเป็นผู้ช่วยอาจารย์ในมหาลัยเดิม
เรียกได้ว่าไม่ต้องย้ายคอนโดให้เสียเวลาเลยด้วยซ้ำ เพราะอาศัยที่เดิมก็ได้
🎶
เสียงเรียกเข้ามือดถือดังขึ้นพร้อมการสั่นครืดครืดไปมาบนโต๊ะ
มือยาวนั่นคว้ามือถือมารับสาย
“ว่าไง”
‘ก๊งมั้ย ที่เดิม กูจองโต๊ะให้แล้ว'
เสียงรุ่นพี่ในสายดังขึ้นมา
ซงมินโฮ รุ่นพี่ที่รู่จักกับและสนิทกันพอสมควร โทรมาแบบนี้โครตมัดมือชกชัดๆด้วยการบอกว่าจองโต๊ะไว้แล้ว
จีวอนหัวเราะร่วน แล้วแบบนี้เขาจะปฏิเสธได้หรือ?
“กี่โมงว่ามา”
.
.
.
.
จีวอนมั่นใจว่าเครื่องให้อาหารเม็ดของโยบอที่ตั้งทิ้งไว้ อาหารเม็ดด้านในจะไม่หมดแน่นอนจึงออกมาอย่างไม่กังวลใดๆ
ดูคาติคสีดำล้วนถูกขับไปยังผับประจำที่เขากับมินโฮและเพื่อนคนอื่นๆไปประจำอย่างชำนาญทาง
รองเท้าบู๊ทหนังข้อสูงเตะขาตั้งรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่
ล็อคคอและเก็บกุญแจลงในกระเป๋ากางเกง ขยับเสื้อเชิ้ตสีดำล้วนพับแขนเสื้อถึงศอกให้รู้สึกพอดีตัวมากขึ้น
ขายาวก้าวเข้าผับพร้อมโชวการ์ดวีไอพี ยิ้มให้การ์ดหน้าผับอย่างคนสนิทกัน อีกฝ่ายทำเพียงยิ้มกลับมาเท่านั้น
“ไอ้จีวอน”
จีวอนหันไปมองเสียงเรียก มินโฮกวักมือเรียกเขาพร้อมพวกเพื่อนและรุ่นพี่ที่ลากกันมาก๊งวันนี้
จีวอนหรี่ตามองคนนึงแล้วถึงกับเบะปากออกมา
“ยุนฮยอง มึงมาทำไม”
“กูมาตามเหล้าฟรีครับเพื่อน”
เพื่อนหน้าสวยของเขายักคิ้วหลิ่วตาพร้อมยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้น
จีวอนเบะปากใส่อย่างนึกหมั่นไส้ น้อยครั้งที่ยุนฮยองจะว่างตรงกัน สิ่งเดียวที่ซื้อมันมาได้คือเหล้าฟรี
เห็นบ่นไม่ว่างๆพอบอกเหล้าฟรีนี่มาหาไม่เคยเกินสามสิบนาที ไอ้เพื่อนเลว เอาเถอะ ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยเจอกันถือว่ามาเจอกันด้วยเหล้าฟรีและความคิดถึงแล้วกัน
จีวอนรั่งลงบนโซฟาหนังนุ่มข้างยุนฮยอง คังซึงยูน เพื่อนพี่มินโฮอีกคนยื่นแก้วเหล้ามาตรงหน้าเขา
จีวอนรับมาแล้วกระดกแอลกอฮอลเข้าคอ
“ฟรีปะพี่” เขาถามซึงยูน
“ฟรี ไอ้มินโฮไม่นก มันเลี้ยง”
จีวอนหันขวับไปมองคนชวนมา มินโฮไหวไหล่แล้วยกยิ้ม ทั้งวงก็รู้ว่าพี่แกตามจีบคนนึงอยู่มาหลายเดือน
อ๋อ..แบบนี้นี่เอง
คนอื่นๆค่อยๆทยอยมา(เอาเหล้าฟรี) ที่พี่มินโฮเลี้ยง จนกระทั่งดีเจเปิดฟลอ แต่ละคนก็พากันไปกลางฟลอ หาสาว จีวอนค่อนข้างไม่อยากไปอัดตรงนั้น
เลยนั่งอยู่กับมินโฮสองคนในโต๊ะ
“มึง กูไปเยี่ยวแปป เฝ้าโต๊ะด้วย” เขายกแก้วเหล้าเป็นสัญญาณว่ารับรู้แล้ว
สัมผัสจากมือตรงลาดไหล่ที่มาจากด้านหลังทำให้จีวอนหันไปมอง
สาวอกใหญ่หล่อนจับบ่าเขาอยู่แล้วยกยิ้มสื่อความนัยออกมา เขาสบตาที่แต่งมานั่น แล้วเจ้าหล่อนก็เดินอ้อมมานั่งทับตักทันที
ไวไฟราวกับแก๊สติดไฟ
เราผลัดกันกระดกเหล้าเข้าปากด้วยมืออีกคนจนหัวจีวอนเริ่มเบลอพร่า
ผ่านไปกี่นาทีแล้วจนนึกสงสัยว่ามินโฮกลับมารึยัง เล็บยาวไล่ไปตามสาบเสื้อเชิ้ต แกะกระดุมออกด้วยมือเดียว
ตาพร่าด้วยฤทธิ์ของมึนเมาเริ่มทำให้ประคองสติไว้ไม่อยู่
แล้วเขาก็รู้สึกวูบไป
.
..
.
.
“พี่จีวอน…”
เสียงติดโทนสูงดังขึ้นข้างโสตประสาท
จีวอนลืมตามามอง เขายังอยู่ในบาร์ แสงสีและบีทของดนตรียังหนักแน่นในหัว รวมถึงร่างอยู่บนตักเขาก็ชัดเจน
เด็กน้อยเมื่อเช้า
สติเขาไม่มั่นคงพอที่จะแยกอะไรเป็นอะไร เด็กตรงหน้ามาได้ยังไงก็ไม่อาจทราบ
เสื้อเชิ้ตสีดำที่ดูใหญ่กว่าตัวสักหน่อยราวกับหยิบของเขามาใส่ กับกางเกงสกินนี่ติดขาเล็กเรียว
สะโพกกลมขยับไปมาเสียดสีผ่านเนื้อผ้ายีนส์ปลุกปั่นอารมณ์ให้ลุกโชนขึ้นมาก
คนตัวเล็กยกยิ้มแล้วเกาะบ่าจีวอนไป ส่ายสะโพกยั่วยวนไปมาจนทำให้อะไรๆมันตื่นขึ้นมาแบบไม่ได้ตั้งใจ
เด็กคนนี้กำลังเต้นรำบนตัวเขาราวกับร่างกายจีวอนเป็นฟลอ คนตรงหน้าเป็นนักเต้นที่กำลังให้ความบันเทิงแก่ผู้ชม
มือเล็กไล่ริดกระดุมที่เหลือบนแผงอก จนสุดเม็ดสุดท้าย
ดึงเปิดให้เห็นถึงแผงอกแน่นและลอนหน้าท้องแข็งแรง ลุบไล้ขูดเขี่ยไปมาเหมือนลูกแมวที่กำลังอ้อนหรืออิหนูที่กำลังอ้อนเสี่ย
จีวอนหายใจติดขัดทันทีเมื่อเล็บสั้นนั่นเขี่ยลูกลอนหกลูกบนหน้าท้องแล้วกัดปากอิ่มตัวเอง
ให้ตายเหอะ แทบคลั่ง แทบบ้า
ริมฝีปากรูปหัวใจนั่นเคลื่อนเข้ามาใกล้แล้วประกบจูบ
คนโดนทับไม่รอดช้าที่จะรั้งคอเรียวมา กดจูบให้แนบแน่น กวาดความหอมหวนยั่วยวนนี้ไว้
รสเหล้าในปากผสมปนเปกับหยาดอารมณ์ มือเล็กสอดเข้ากลุ่มผมสั้นของร่างสูงกว่า รุกไล่กันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใครในเกมนี้
คนหน้าเด็กละใบหน้าออกจากเกมจูบเมื่อครู่
ริมฝีปากบวมเจ่อ เงาวาวราวกับทาลิป ตากลมปรือ เต็มไปด้วยหยาดอารมณ์ หอบหายใจถี่รับออกซิเจนเข้าปอดทดแทนที่หายไปเมื่อครู่
เจ้าของสุนัขคลานเข่าลงจากตัวเขาถดตัวไปที่หว่างขาที่แยกออกของเขา
มือเล็กลูบส่วนแข็งขืนผ่านเนื้อผ้ายีนส์
จะบ้าตายแล้วครับอิหนู..
“อ่า...”
เสียงแหบพร่าคำรามในลำคอยามเมื่อมือนั้นสัมผัสมันรุนแรงขึ้นผ่านเนื้อผ้า
ถูไปมาเสียจนอยากดึงคนตรงหน้ามากระทำย่ำยี เด็กหน้าแมวปลดกระดุมกางเกงและรูดซิปลงพร้อมร่นอันเดอร์แวร์สีเข้มเผยให้เห็นความต้องการร้อนผ่าวที่จ่อตรงหน้าอีกคน
ลิ้นเล็กนั่นโลมเลียส่วนตรงหน้า ครอบครองมันไปจนเกือบสุดความยาว
รูดรั้งขึ้นลงไปเป็นจังหวะและเริ่มเพิ่มความเร็ว จีวอนกัดริมฝีปากอย่างกลั้นอารมณ์
ราวกับมีปืนอยู่ในมือ
อารมณ์จีวอนตอนนี้คงเหมือนขึ้นนก ชักไกปืนเตรียมกดยิงออกไปเต็มที
ใกล้แล้ว..
ใกล้จะ-------
.
.
.
“เหี้ย!!!”
จีวอนสะดุ้งตื่นขึ้นมาบนเตียงห้องของตัวเอง
อาการปวดหัวมึนหัว ปวดหัวอยากอ้วก ปากและคอแห้งแทบเป็นผง แฮงค์แบบ แฮงค์โครต ๆ
คิดไม่ออกว่ากลับห้องมาได้ยัง ใครพากลับมา พอหยิบมือถือขึ้นมาถึงได้รู้ว่าแบตหมด
เขาชาร์ตแบตโทรศัพท์ทิ้งไว้พร้อมลุกไปอาบน้ำ
ทำความสะอาดตัวเองรวมถึงคราบอะไรต่าง ๆ จากความฝันแสนจัดจ้านเมื่อคืน คนตัวสูงเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมชุดเตรียมนอนอีกรอบ
แต่ดูจากอะไรบนที่นอนสีเข้มของตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนใจออกมา
คงต้องเอาไปซักจริง
ๆ นั่นแหละ
แมวตัวน้อยของเขาไม่ได้มานอนด้วยเหมือนทุก
มันกลับไปซุกตัวอยู่ตรงซอกหลืบตู้เย็น ไม่มั่นใจว่ากลิ่นเหล้าคลุ้งจนยอโบจำไม่ได้หรืออะไร
ร่างโปร่งดึงผ้าปูที่นอนรวมถึงปลอกหมอนออกมายัดใส่ตะกร้าเปล่าที่เพิ่งเอาผ้าไปซักเมื่อวานทำให้ตะกร้าโล่ง
มือยาวกดเปิดโทรศัพท์พอคิดได้ว่าแบตน่าจะพอให้เปิดได้แล้ว
หน้าจอมือถือสว่างวาบขึ้นมาพร้อมทั้งมิสคอล 1 สายจากพี่มินโฮและพบว่ามันเป็นข้อความเสียงที่พี่แกทิ้งไว้ให้
จีวอนไม่รอช้าที่จะเปิดฟัง
‘ไอ้จีวอนน้องเหี้ย โดนมอมยายังไม่รู้ตัว ถ้ากูมาเจอไม่ทันเป๋าตังค์มึงหายไปแล้ว
สำนึหบุญคุณกูไว้ไอ้เหยิน คนแบกมึงกลับห้องก็กู สำนึกไว้ไอ้เด็กเวร’
ค่อนข้างไม่เข้าใจว่าจะโทรฝากแมสเสจไว้ทำไม
เขาส่ายหน้าและยิ้มน้อย ๆ ให้ความเอาเป็นห่วงน้องของมินโฮ
ถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งในคืนนั้นที่จีวอนไม่ถูกแม่สาวมิจฉาชีพคนนั้นดึงเอากระเป๋าตังไป
จีวอนหอบหิ้วตะกร้าผ้าไปห้องซักรีดล่างหอพบว่ามันปิด
ป้าเจ้าของร้านคงยังไม่ตื่น แน่สิ นี่มันเพิ่งเช้ามืด ได้แต่ระเห็จไปใช้ห้องซักรีดเป็นเครื่องซัดผ้าหยอดเหรียญของหอตรงข้าม
คนเพิ่งสร่างกำเหรียญในมือที่เพิ่งไปแลกมาอย่างเงอะงะ แน่สิ
นานทีปีหนจะได้ใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จีวอนหาวหวอดวางเครื่องซักผ้าลง
ทำท่าจะหยอดเหรียญแต่มื้อไม้อ่อนไปหมดเหมือนคนยังตื่นไม่เต็มที่
ทำให้เหรียญตกกระจายไปทั่ว
“แม่ง...”
สบถเบาๆในลำคอพลางก้มเก็บเหรียญ
แถมยังไปลำบากคนที่มาใช้ห้องร่วมกันต้องช่วยเก็บอีก
แต่เจ้าของมือที่ยื่นเหรียญมาคืนนี่คุ้นเหลือเกิน
ตาเล็กเรียวของคนทำเหรียญตกเบิกว้างเมื่อสบกับใครอีกคนในห้องซักรีดเดียวกัน
โอ้..พระเจ้าช่วย..
“อะ...อิหนู !!!??”
“..พ...พี่โจร !!??”